เรียกว่าทำงานแลกค่าอาหารมีอยู่จริง เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 โลกออนไลน์ได้แชร์เรื่องราวจากเฟซบุ๊ก Panumas B. Sroitong ซึ่งเป็นเจ้าของร้านชาบูใน จ.ระยอง ออกมาโพสต์เล่าเหตุการณ์แก๊งเด็ก 4 คน เข้ามากินชาบูในร้าน พนักงานแจ้งราคาเปิดโต๊ะเรียบร้อย กินกันจนอิ่ม แต่พอเช็กบิลเงินไม่พอจ่าย มีแค่ 596 บาท (ค่าอาหาร 1,112 บาท) ขาดไป 516 บาท
อีกทั้ง ตอนนั้น 3 ทุ่มครึ่ง (ปกติร้านปิด 3 ทุ่มตรง) เจ้าของร้านเห็นดึกแล้ว จะหาเงินมาจ่ายคงลำบาก จึงใช้วิธี “ทำงานแลกหนี้” ช่วยพี่พนักงานเสิร์ฟเก็บร้าน เด็ก ๆ ก็ยินดีช่วยเก็บขยะ กวาดพื้น ยกเก้าอี้ แทนค่าอาหารส่วนที่เหลือไป
ขณะที่ เรื่องเล่าเช้านี้ ได้สอบถามไปยังเจ้าของร้าน เผยว่า ที่เลือกใช้วิธีนี้เพราะเห็นเป็นเด็ก แถมดึกแล้วจะไปหาเงินมาจากไหน ไม่ใช่ผู้ใหญ่ที่สามารถโทร. ยืมคนโน้นคนนี้โอนเงินมาให้ก่อนได้
ตอนนั้นเด็ก ๆ บอกว่าพรุ่งนี้ค่อยมาจ่ายได้ไหม ตนเลยให้ช่วยทำความสะอาดเก็บร้านหักหนี้ค่าอาหารไป ไม่คิดเอาเรื่องถึงขั้นแจ้งความ ไม่ได้ซีเรียสขนาดนั้น เงินแค่นี้จะไปเอาอะไรกับเด็กล่ะ กลัวว่าถ้าน้องกลับบ้านไปขอพ่อแม่ก็จะโดนตีไปอีก แต่ก็ไม่อยากปล่อยผ่านอยากให้เด็ก ๆ รู้ว่าจะมากินฟรีง่าย ๆ แบบนี้ไม่ได้ ชีวิตจริงมันต้องทำงานแลกเงินนะ
ขณะที่ความคิดเห็นในโซเชียลพากันชื่นชมแนวคิดของเจ้าของร้าน ถือเป็นการแก้ปัญหาได้ถูกวิธี ปลูกจิตสำนึกสอนให้เด็ก ๆ รู้จักคุณค่าของเงิน ซึ่งต่อมาในเพจของร้านชาบู ก็ได้โพสต์ข้อความย้ำว่า “ไม่ใช่ว่าใครมาก็จะได้กินฟรีนะ ใครมาเลียนแบบ เตรียมไม้เรียวรอแล้วนะ”
ภาพจาก ภานุมาส สร้อยทอง / เรื่องเล่าเช้านี้